สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของกรมประชาสัมพันธ์ที่มุ่งเน้น ให้รับผิดชอบและปฏิบัติงานด้านการประชาสัมพันธ์ในระดับจังหวัด เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจอันดีต่อพี่น้องประชาชนกับส่วนราชการ และนโยบายของรัฐบาล โดยกำหนดเป็นราชการบริหารราชการส่วนภูมิภาค ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการ กรมประชาสัมพันธ์ ฉบับที่ 2 พ. ศ. 2518 ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2518 ต่อมาในปีพุทธศักราช 2520 สำนักงาน ก.พ. ได้อนุมัติให้กำหนดตำแหน่งในสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด รวม 72 จังหวัด และสำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณ ให้กรมประชาสัมพันธ์จัดตั้งสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขึ้น ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2523 เป็นต้นมา จนปัจจุบันมีสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด จำนวน 75 จังหวัดทั่วประเทศ โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ ได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณและบุคลากร โดยเปิดให้บริการพี่น้องประชาชนและส่วนราชการในจังหวัด เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2526 โดยตั้งอาคารที่ทำการสำนักงานอยู่ที่ ชั้นล่างด้านขวามือภายในอาคารศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ (หลังเก่า) ต.ในเมือง อ.เมือง (ข้างศาลจังหวัดบุรีรัมย์) มีกรอบอัตรากำลังข้าราชการ จำนวน 5 คน และลูกจ้างประจำ จำนวน 1 คน โดยมี นายจำลักษณ์ อั๋นประเสริฐ ดำรงตำแหน่งประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ คนแรก ปัจจุบันสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ มีที่ทำการสำนักงานอยู่ที่ ล่างด้านขวามือภายในอาคารศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ หลังใหม่ (เขากระโดง) ต.เสม็ด อ.เมือง มีกรอบอัตรากำลังข้าราชการ จำนวน 5 คน และลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 1 คน และจ้างเหมาบริการ จำนวน3 คน โดยมีนางมยุรี สงวนนาม ดำรงตำแหน่งประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ คนปัจจุบัน
รายนามประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันก่อตั้ง จนถึง ปัจจุบันดังนี้
คนที่ 1 นายจำลักษณ์ อั๋นประเสริฐ ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ.2526
คนที่ 2 นายอำนวย ปานนุ้ย ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2527
คนที่ 3 นายเฉลิมพล สุมังคละสมบัติ ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2527 ถึงเดือน เมษายน พ.ศ.2528
คนที่ 4 นายเพทาย ไชยดิษฐ์ดำรงตำแหน่งเมื่อ -เดือนเมษายน พ.ศ.2528 ถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2535
คนที่ 5 นายวันชัย เกิดแดน ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2535 ถึงเดือนมกราคม พ.ศ.2537
คนที่ 6 นางสาวโสภิดา พจนานุรัตน์ ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2537
คนที่ 7 นายประจิต พัชรินทร์ศักดิ์ ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2537 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543
คนที่ 8 นายบัวไร ชนะชัย ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544
คนที่ 9 นายนิติ ภูมิศิริไพบูลย์ ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2546
คนที่ 10 นายสำราญ ปิ่นนิล ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2546 ถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2547
คนที่ 11 นายดุสิต สิงห์คีรี ดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2547 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
คนที่ 12 นายเฉลิมชัย จันทรเสนา ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551
คนที่ 13 นายพงษ์ศักดิ์ อินทรทัต ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552 ถึงวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556
คนที่ 14 นายสาโรจน์ ม่วงสมมุข ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556 ถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558
คนที่ 15 นายศักดิ์ศิริ หยวกฉิมพลี ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
คนที่ 16 นางผุสดีเสริมใหม่ ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 15กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561
คนที่ 17 นางมยุรี สงวนนาม ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 จนถึงปัจจุบัน
กรมประชาสัมพันธ์
เป็นหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐบาลกับประชาชน ตลอดจนระหว่างประชาชนด้วยกัน โดยวิธีการให้ข่าวสาร ความรู้ข้อเท็จจริงและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อเสนอรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่โน้มน้าว ชักจูงประชาชน เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือแก่รัฐบาลและหน่วยราชการต่าง ๆ ตามแนวทางที่ถูกที่ควรในระบอบประชาธิปไตย โดยมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุข นอกจากสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพมหานครแล้ว กรมประชาสัมพันธ์ ยังมีสำนักประชาสัมพันธ์เขต อีก 8 สำนัก ได้แก่ 1. สปข.1 ขอนแก่น , 2. สปข.2 อุบลราชธานี , 3. สปข.3เชียงใหม่ , 4. สปข.4 พิษณุโลก , 5. สปข.5 สุราษฎร์ธานี , 6. สปข.6 สงขลา , 7. สปข.7จันทบุรี และ , 8. สปข.8 กาญจนบุรี เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้เข้าถึงประชาชนในส่วนภูมิภาค ขณะเดียวกันกรมประชาสัมพันธ์ ยังมีสำนักงานประชาสัมพันธ์ครบทุกจังหวัด
กรมประชาสัมพันธ์เริ่มก่อตั้งเมื่อ 3 พฤษภาคม 2476 ภายหลัง การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นระบอบประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศโดยมีชื่อในระยะเริ่มแรกว่า "กองโฆษณาการ” และได้เปลี่ยนชื่อเป็น สำนักงานโฆษณาการ” เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2476 และได้มีการพัฒนาผลงานมาเป็นลำดับโดยมีการปรับปรุงและขยายความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นทุก ๆ ระยะตามความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการสภาพของสังคม การเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลในแต่ละสมัย และเปลี่ยนชื่อมาเป็น "กรมโฆษณาการ” เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2483 หลังจากนั้น 12 ปี ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "กรมประชาสัมพันธ์” เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2495
ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งปรากฎในราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 7 เล่มที่ 64 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2490 กำหนดเครื่องหมายราชการ "กรมโฆษณาการ” ให้เป็นรูปพระอินทร์เป่าสังข์เหาะลอยอยู่เหนือเมฆ มีวงกลมล้อมรอบตามวรรณคดีกล่าวไว้ว่า พระอินทร์เป่าสังข์ปลุกพระนารายณ์ให้ตื่นจากบรรทมสินธุ์ในสะดือทะเล เพื่อขึ้นมาปราบเหตุร้ายต่าง ๆ ในโลก อย่างไรก็ดี โดยที่สังข์ ตามลัทธิพราหมณ์ถือว่าเป็นมงคล 3 คือ สังข์ ถือกำเนิดจากพระพรหม ท้องสังข์เคยเป็นที่ซ่อนคัมภีร์พระเวทและตัวสังข์ มีรอยนิ้วพระหัตถ์ ของพระนารายณ์ ในพิธีทางศาสนา พราหมณ์ จึงมีการเป่าสังข์เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย นอกจากนี้ พระในลัทธิชินโตก็ใช้สังข์เป่าในพิธีมงคลพวกชาวเกาะทะเลใต้ เป่าสังข์ บอกสัญญาณระหว่างกันปรากฏว่าได้ยินไปไกลไม่แพ้เป่าเขาควาย เนื่องจากงานประชาสัมพันธ์เป็นการโฆษณาเผยแพร่และอธิบายชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจอย่างกว้างขวางเป็นการสร้างความเข้าใจอันดี โดยมีวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และภาพยนตร์เป็นเครื่องช่วย จึงเปรียบได้กับการเป่าสังข์ของเทวดาในสมัยโบราณเพื่อบอก สัญญาณ และเรียกประชุม นั่นเอง
ใช้สีม่วง ซึ่งถือกันว่าเป็นสีของงานสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์
Link banner
Copy code นี้ไปลงในเว็บไซต์ของท่าน
<a href="http://www.prd.go.th" target="_blank"><img src="http://www.prd.go.th/images/prd_banner01.jpg" border="0" alt="กรมประชาสัมพันธ์" |