เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ รณรงค์ส่งเสริมการไถกลบตอซังข้าว และหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้เกษตรกรตระหนักถึงผลกระทบจากการเผา ใช้การไถกลบตอซังข้าวแทน และปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตไปสู่ “การทำการเกษตรแบบปลอดการเผา”
        วันนี้ (07 มี.ค.67) นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานพิธีเปิดงานรณรงค์ส่งเสริมการไถกลบตอซังข้าว และหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรตระหนักถึงผลกระทบจากการเผา ในพื้นที่การเกษตร นำเสนอทางเลือกการใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุทางการเกษตร และการไถกลบตอซังข้าวทดแทนการเผา และเพื่อให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตไปสู่ “การทำการเกษตรแบบปลอดการเผา” ที่บ้านหนองครอบ หมู่ที่ 5 ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ โดยมีนายชาติชาย ศรีษะนอก เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ นายอำเภอกระสัง หัวหน้าส่วนราชการ เกษตรอำเภอ ผู้นำท้องถิ่น เกษตรกร องค์กรเกษตรกร กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน และผู้นำชุมชน รวมทั้งสิ้น 200 ราย เข้าร่วมกิจกรรม
    กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายเกษตรกร การสาธิตการใช้เทคโนโลยีการเกษตรทดแทนการเผา และการไถกลบตอซังข้าว
     นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประสบปัญหาหมอกควันปกคลุมพื้นที่ ในช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนพฤษภาคม ของทุกปี โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเผาในที่โล่ง ก่อให้เกิดหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของพี่น้องประชาชน เศรษฐกิจ สังคม การคมนาคม และการท่องเที่ยว รวมถึงยังเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาดินเสื่อมโทรม ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ และระบบนิเวศขาดสมดุล 
จังหวัดบุรีรัมย์ จึงมีประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาดในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์การหยุดเผาในพื้นที่การเกษตร และนำเสนอทางเลือกต่าง ๆ เพื่อทดแทนการเผา ได้แก่ การไถกลบตอซัง การใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุการเกษตร และการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงการใช้กลไกเครือข่ายความร่วมมือจากทุกภาคส่วน   จึงขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกร ได้ให้ความสำคัญและตระหนักถึงปัญหาจากการเผา และปรับเปลี่ยนมาทำการเกษตรแบบปลอดการเผา เพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาอย่างยั่งยืนต่อไป