รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดโครงการอบรมอาชีวะศึกษาเกษตรและประมงสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์
วันนี้(21 ก.ย. 65) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดโครงการอบรมอาชีวะศึกษาเกษตรและประมงสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และเปิดร้านกาแฟ K-Farm Koffee ศูนย์บ่มเพาะวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ โดยมีนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายวิทยา พลศรี ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ สภาเกษตรกร บุคลากรทางการศึกษา นักศึกษาศิษย์เก่าและปัจจุบัน ร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งศูนย์แห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อ เป็นแหล่งผลิตสินค้าทางการเกษตรแบบครบวงจร มีการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าเกษตรที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละสถานศึกษา เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันยิ่งขึ้น ทั้งสินค้าที่เป็นอาหาร และไม่ใช่อาหารสินค้าทางการเกษตร ในส่วนเป็นอาหารจะมีเทคนิคในการเพิ่มมูลค่าโดยการแปรรูป หรือการถนอมอาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าให้มีราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งหากมีการทำอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้ผลผลิตสินค้าทางการเกษตรมีปริมาณไม่ล้นตลาด อีกทั้งยังเสริมสร้างอาชีพใหม่ๆ ในชุมชน และยังสามารถลดต้นทุนการผลิตสินค้าได้
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า เกษตรกรรมของประเทศไทยมีความสำคัญตลอดเวลา เป็นแหล่งผลิตอาหารหล่อเลี้ยงชาวไทย และชาวโลก ดังนั้นประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการเกษตรมากเป็นพิเศษ แต่ที่ผ่านมาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานยังไม่เพียงพอ แต่ในงานนี้มีทั้งผู้ประกอบการ ส่วนราชการ สถานศึกษา มาร่วมมือด้วยและสถานศึกษามีความตั้งใจที่จะผลิตเกษตรกรรุ่นใหม่ แบบมืออาชีพ ทันสมัย เรียนมีรายได้ จบแล้วมีงานทำ จึงได้เกิดการเรียนการสอนสมรรถนะก้าวไกลสู่สากล ซึ่งเมื่อนักศึกษาจบออกไปแล้วมีมาตรฐานสากล สามารถไปทำงานที่ไหนก็ได้ ซึ่งขณะนี้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีได้เปลี่ยนโฉมการเรียนการสอนสู่สากลแล้ว จึงขอฝากไปถึงผู้ปกครอง และนักเรียน นักศึกษา ว่าการเรียนในสายอาชีวศึกษา มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศมีสูงขึ้น รัฐบาลก็ให้ความสำคัญ เรียนอาชีวะมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ สามารถเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้เช่นกัน